อย่างที่เรานั้นก็ทราบกันดีว่ากีฬาหมากรุกนั้นเป็นกีฬาที่ใช้ทักษะสูง รวมถึงเป็นกีฬาที่ถือว่าค่อนข้างเก่าแก่ถึงแม้ปัจจุบันนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นกีฬาหมากรุกตามหน้าจอทีวี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่ หมากรุกเป็นกีฬาที่ต้องใช้สติ ปัญญา และสมาธิที่ต้องใช้ความคิด ในการเดินหมากแต่ละครั้งมีทั้งชนะกับแพ้แล้วหากใครได้คว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งนั้นแล้วเขาก็จะเป็นตำนานตลอดกาล
หมากรุกไทยเป็นกีฬาที่นักคิดส่วนใหญ่ให้ความสนใจเพราะกีฬาประเภทนี้คนเล่นจะต้องมีความรอบคอบ สติบวกกับปัญญาเพื่อจะใช้มาปรับกลยุทธในการแข่งขันได้ ดังนั้นการเล่นกีฬาชนิดนี้จะสอนให้คนที่เริ่มเล่นรู้จักการใช้สติในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น วันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจะพาคุณไปรู้จักกับตำนานแห่งหมากรุกไทย ผู้บุกเบิกกลยุทธม้าโยงขวาที่ครองแชมป์ในไทย 3 สมัยติด ประวัติของชายคนนี้บอกเลยว่าไม่ใช่เล่นๆ เพราะเขาคนนี้คือของจริงของวงการหมากรุกเลยทีเดียวซึ่งเขาคนนั้นมีฉายาที่รู้จักกันดีเลยคือ “เซียนป่อง” นั่นเอง
เซียนป่อง หรือนายสุชาติ ชัยวิชิต นักกีฬาหมากรุกไทยรวมถึงหมากรุกสากล เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบกีฬาหมากรุกเป็นชีวิตจิตใจ เซียนป่องเป็นแชมป์หมากรุกในการแข่งขันขุนทองคำถึง 5 สมัย นอกจากนี้เขายังถือว่าเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันกีฬาหมากรุกทั้งไทยและสากลไม่ให้สูญหายไป การที่เขาลงเล่นแต่ละทีนั้นแน่นอนว่าต้องมีบรรดาแฟนคลับที่จะมาร่วมชื่นชมฝีมือในการเดินหมากเต็มสนามแข่ง
เซียนป่อง คนนี้เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2499 อายุได้ 62 ปี เขาเป็นผู้บุกเบิกกลยุทธม้าโยง จนกลยุทธนั้นทำให้เหล่าเซียนทั้งหลายเรียกว่า ม้าโยงสุชาติ เขาเป็นแชมป์ขุนทองคำตั้งแต่ปีพ.ศ.2526 ยาวมาจนถึงปี พ.ศ.2534 คว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 5 สมัย นอกจากนั้นยังได้รับชัยชนะในการแข่งขันมหากรรมหมากรุกไทยในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งในงานนี้เขาได้รับฉายาว่าเป็น “สุดยอดแห่งเซียน” เลยทีเดียว
เซียนป่องไม่ได้แค่ชนะเพียงอย่างเดียว ในการแข่งขันแชมป์ขุนทองคำในปี พ.ศ.2532 เขาได้พลาดท่าเสียทีให้กับหนูทอง หรือนายวีระพล สุนทรพงศาธร คู่นี้เป็นเหมือนคู่ปรับกันในสนามหมากรุก ทุกครั้งที่ได้ประชันฝีมือกันคู่นี้จะดุเดือดเป็นคู่ที่แฟนคลับให้ความสนใจมากกว่าคู่อื่นๆ แต่หลังจากที่เขาพ่ายแพ้ให้กับหนูทองในปีนั้น เขาก็ได้ทวงคืนตำแหน่งแชมป์คืนได้ในปีถัดมาหลังจากนั้นก็ไม่มีใครสามารถโค่นแชมป์อย่างเขาได้อีกเลย