Right-horse-photo

กลยุทธการเดินม้าโยงขวา สุดยอดอย่างไร

หมากรุก เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในการเล่นมากมายซึ่งเซียนหมากรุกแต่ละคนนั้นจะมีทักษะที่แตกต่างกัน ถ้าหากว่าใครที่คิดว่าต้องการที่จะเป็นเซียนหมากรุกที่เก่งรวมถึงได้รับการยอมรับจากเหล่าผู้ชื่นชอบกีฬาหมากรุกนั้น คุณต้องรู้จักกลยุทธต่างๆ ที่สามารถพิชิตชัยชนะในการแข่งขันให้ได้ เพราะนอกจากทักษะในการเล่นอย่างเดียว คุณต้องรู้จักที่จะศึกษากลยุทธ วิธีการต่างๆ ที่จะทำให้คุณเป็นสุดยอดของนักเล่นหรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “เซียน” หมากรุกมีการกลยุทธหลากหลายวิธีวันนี้เราจะนำวิธีที่นักเล่นส่วนใหญ่มักนิยมใช้กัน เพราะกลยุทธนี้ถือว่าเป็นกลยุทธที่สามารถนำชัยชนะมาให้แก่พวกเขานักต่อนักแล้ว ยิ่งถ้าหากกลยุทธนี้ได้ถูกขัดเกลา วิเคราะห์การเล่นออกมาอย่างดี วิชานี้คงทำให้คุณไปคว้าชัยชนะมาเป็นของตัวคุณเองได้ไม่ยาก และวิธีที่เราจะนำมาเป็นแนวทางในการให้พวกคุณได้ศึกษานั่นก็คือ “การเดินหมากแบบม้าโยงขวา” ม้าโยงขวานั้นเดิมที่ไม่มีใครเรียก ม้าโยงขวาเป็นกลยุทธที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากกลยุทธม้าเตี้ย สาเหตุที่เรียกม้าเตี้ยเพราะว่าเวลาที่เล่นหมากรุกแล้วมีการเปิดหมากนั้นการที่เล่นเอาม้ามาเดินคู่กันม้าจะดูเตี้ยเหมือนกัน กลยุทธนี้เป็นกลยุทธของการตั้งรับอย่างดีเยี่ยม หรือถ้าหากว่าเป็นการเดินม้าคู่มาอยู่ขนาบข้างกับเรือนั้นคนสมัยก่อนก็จะเรียกการเดินหมากแบบนี้ว่าม้าเทียมราชรถ แต่ปัจจุบันอย่างที่รู้กันว่ามีการศึกษาพร้อมกับพัฒนาการเล่นตอนนี้จึงอาจจะเห็นการเล่นม้าเตี้ย หรือม้าเทียมราชรถไม่บ่อยนัก สมัยก่อนไม่ค่อยจะมีคนนำหมากที่มีรูปร่างต่างจากคนอื่นๆ มาเล่นแต่มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้บุกเบิกตัวหมากที่ทำให้เราเห็นกลยุทธอื่นนอกจากม้าเทียมราชรถในการแข่งขันชิงแชมป์สนามหลวงในยุคแรกๆ คนที่บุกเบิกนั่นก็คือ ปรมาจารย์พลบ จาดบรรเทอง นอกจากจะเป็นผู้บุกเบิกแล้วเขายังเป็นผู้ที่เขียนตำราหมากรุกที่นำหมากรูปลักษณ์แปลกใหม่อย่างม้าที่มีลักษณะสูงกว่าปกติมาเล่น ซึ่งหมากตัวนี้ถูกเรียกหลายชื่อนักไม่ว่าจะเป็น ม้าผูก ม้าโยง จนในที่สุดหมากตัวนี้ก็ถูกจดจำเมื่อเซียนหมากรุกทั้งหลายเรียกหมากตัวนี้ว่า “ม้าโยงขวา” ม้าโยงขวากับม้าเทียมนั้นกลยุทธนี้จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะม้าเทียมราชรถนั้นส่วนใหญ่จะมีไว้สำหรับตั้งรับอย่างเดียวไม่นิยมเปิดหน้าเบี้ย แต่สำหรับม้าโยงขวานั้นจะมีการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นจากเดิมเล็กน้อยคือจะมีการปรับตำแหน่งของขุนเกิดขึ้น ผู้เล่นจะเอาขุนมาหลบอยู่ที่ปีกซ้าย ม้าโยงก็จะอยู่ทางด้านขวา เซียนหมากรุกมักเรียกว่าม้าโยงขวาบันลือโลก และถ้าหากขุนหลบมาอยู่ใต้เม็ดแล้วนั้นม้าโยงก็จะสามารถผูกเรือสองลำด้วยกันได้ด้วย

Western-style-pic

การเล่นหมากรุกแบบฝรั่งที่น่าสนใจ

หมากรุก เป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะในการเล่น ซึ่งหลายๆ ประเทศในเอเชียให้ความสนใจไม่ว่าจะเป็นไทย หรือจีนซึ่งโดยแท้จริงแล้วกีฬาหมากรุกหลายๆ คนคงจะคิดว่ามีต้นกำเนิดมาจากจีน หรือไทยทั้งๆ ที่จริงแล้วเป็นความคิดที่ผิดหากคุณใช้เกณฑ์ตัดสินจากที่เห็นแบบผิวเผินว่าผู้สูงอายุที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน หรือผู้สูงอายุในไทยเล่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้วจุดกำเนิดจองหมากรุกนั้นมาจากประเทศอินเดียนั่นเอง กีฬาหมากรุกไม่ใช่เพียงอินเดีย จีน ไทย หรือประเทศในเอเชียต่างๆ ในความนิยมเล่น พวกฝรั่งโซนยุโรปก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งการเล่นนั่นอาจจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากทำให้หมากรุกนั้นมีผู้สนใจไปทั่วโลก จนการละเล่นหมากรุกเป็นกีฬาสากลอีกแขนงที่ประชากรบนโลกในการยอมรับ หลายคนอาจจะสงสัยว่าฝรั่งเล่นหมากรุกอย่างไร วันนี้เราจะมาพูดเกี่ยวกับหมากรุกสากลว่ามีวิธีเล่นอย่างไร แตกต่างกับหมากรุกของไทยกับจีนหรือไม่ หมากรุกสากลนั้นอาจจะมีวิธีการเล่นคล้ายคลึงกับหมากรุกไทย หรือจีนแต่ตัวหมากนั้นจะแตกต่างออกไป ซึ่งหมากรุกฝรั่งหรือหมากรุกสากลนั้นตัวหมากของเขาจะมีทั้งหมดจำนวน 16 ตัว ซึ่งหมากแต่ละตัวนั้นจะมีลักษณะเดินที่แตกต่างกันออกไป หมากรุกสากลนั้นจะเน้นการเดินแบบโจมตีจากนั้นก็จะยึดตัวหมากรุกของฝั่งตรงข้าม นอกจากหมากรุกสากลนั้นจะใช้วิธีการโจมตีเพื่อให้ได้ตัวหมากจนชนะแล้ว การที่ฝ่ายตรงข้ามจนมุมและยอมแพ้ก็ถือว่าชนะเช่นเดียวกัน ส่วนมากแล้วการที่อีกฝ่ายยอมแพ้นั้นจะมีชัยชนะมากกว่าการกินตัวหมากด้วยซ้ำไป การเดินหมากของหมากรุกสากลนั้น หมากฝ่ายขาวจะเป็นฝ่ายที่เริ่มเกมส์ก่อนเสมอ เมื่อเริ่มการเดินหมาก แต่ละฝั่งจะสลับการเดินหมากคนละครั้งต่อ 1 ตา หมากทุกตัวนั้นสามารถเดินเข้าไปยังจัตุรัสเพื่อยึดหมากของฝั่งตรงข้าม โดยมีข้อยกเว้นในการยึดเพียงข้อเดียวคือ ห้ามกินผ่าน เคล็ดไม่ลับสำหรับคนต้องการเป็นเซียนหมากรุก เรียนรู้การเล่นหมากรุกสากลให้ได้หมากรุกให้ได้หลากหลายวิธี เพื่อช่วยในการพัฒนาฝีมือการเล่นรวมถึงศึกษาวิธีการวางหมากเพื่อหลอกล่ออีกฝ่าย หมั่นนั่งดูคนที่เล่นเก่งๆ เพื่อนำเทคนิคของเขามาพัฒนาตัวเอง การที่คุณคอยไปยืนดูเวลาเขาเล่นมันจะทำให้คุณซึมซับมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว นั่งซ้อมบ่อยๆ ฝึกฝนการเล่นบ่อยๆ จะทำให้คุณเกิดความชำนาญในการเล่นมากยิ่งขึ้น หมั่นวิเคราะห์การเล่นหมากรุก รวมถึงวิเคราะห์แต้มเพื่อเป็นการเรียนรู้วิธีการถอดหมากอีกทาง หมั่นฝึกฝนทักษะในการเล่นของตัวเองให้เกิดความชำนาญมากที่สุด

Thai-Chess-Masters

8 สุดยอดเซียนแห่งหมากรุกไทย

หมากรุกไทยถือเป็นกีฬาอีกแขนงหนึ่งที่ใช้ทักษะชั้นสูงในการเล่น หมากรุกนั้นมีหลากหลายกลยุทธที่ผู้แข่งขันจะสามารถจดจำและนำมาใช้ในการแข่งขัน หมากรุกนั้นมีเสน่ห์ในตัวเอง ถ้าหากว่าใครได้ลองศึกษาหรือลองลงสนามเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่ากีฬาหมากรุกนั้นมีหลากหลายประโยชน์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เพราะฉะนั้นหมากรุกไทยจึงเป็นที่รู้จักอย่างหลากหลายในหมู่คนที่มีสมาธิในการเล่นเกมส์ กีฬาหมากรุก ถ้าหากใครได้ทดลองเล่นดูแล้วจะทราบดีว่ากีฬาประเภทนี้นอกจากจะให้ความสนุกสนานแล้วยังแฝงแง่มุมการใช้ชีวิตต่างๆ เข้าด้วยกัน คนที่เล่นหมากรุกนั้นจะทราบดีว่าหมากรุกจะสอนให้รู้จักควบคุมรวมถึงใช้สติในการจัดการกับปัญหาทุกอย่างในลุล่วงไปได้ด้วยดี แถมยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการตัดสินใจที่จะลงมือทำอะไรเพื่อให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด หมากรุกนั้นมีคนเล่นเก่งๆ หลายคนแต่น้อยคนนักที่จะได้ขึ้นแท่นเป็นเซียน ซึ่งเซียนหมากรุกนั้นจะเป็นที่ยอมรับกับคนทั่วไปวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับสุดยอดเซียนหมากรุกไทย มีใครมาตามมาดูได้เลย 8 สุดยอดเซียนหมากรุกไทย สุชาติ ชัยวิชิต “เซียนป่อง” สุดยอดเซียนคนนี้มีรางวัลการันตีความเก่งกาจด้วยการเป็นแชมป์ถึง 4 สมัยในรายการขุนทองคำ รวมถึงยังเป็นผู้บุกเบิกกลยุทธม้าโยงขวาอีกด้วย วีรพล สุนทรพงษาธร หรือฉายาที่รู้จักกันดีที่ชื่อว่า หนูทอง คู่ปรับมือฉมังของสุชาติ ชัยวิชิตเคยแข่งขันได้รับชัยชนะจากสุชาติ ชัยวิชิตในรายการขุนทองคำ เซียนแหว่ง หรือบุญสืบ แซ่เฮง คนๆ นี้ก็เป็นอีกคนที่น่าจับตามองเพราะเคยสามารถเอาชัยชนะจากเซียนป่องกับหนูทองได้ เก่งทั้งหมากรุกไทยรวมถึงสากล นับว่าเป็นเซียนหมากรุกที่มีความสามารถจริงๆ วิรัช เลิศมวลมิตร หรือเซียนซ้ง คนๆ นี้ถ้าในเกมส์หมากรุก หลายๆ คนเรียกเค้าว่าเป็นเหมือนจ้าวยุทธจักร เพราะเขาเคยครองแชมป์ในรายการสนามหลวงมาแล้วถึง 3 สมัยจนถึงขึ้นกรรมการขอร้องไม่ให้ลงแข่งเพื่อเปิดโอกาสให้กับเด็กๆ คนอื่นบ้าง สุรการ วงศ์นิล หรือที่รู้จักในฉายา “โคนสุรการ” ฉายานี้ได้มาจากการที่เขาได้ใช้กลยุทธในการเล่นที่ใช้โคน ถือว่าเป็นต้นตำรับแห่งวิชานี้เลยก็ว่าได้ “สิงห์ร้ายแปดริ้ว” […]

ThaiChess

รู้จักวิธีการเดินตัวหมากรุกไทยแบบง่ายๆ

กิจกรรมหนึ่งที่หากย้อนไปในสมัยก่อนคนเล่นกันมากเลยนั่นคือ หมากรุกไทย กิจกรรมนี้นอกจากจะเป็นการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นการลับสมองอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน น่าเสียดายเด็กรุ่นใหม่เล่นหมากรุกไทยกันไม่เป็นเสียแล้ว เพราะงั้นเราเลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้สอนวิธีการเล่นหมากรุกไทยเสียหน่อย มารู้จักการเดินของตัวหมากก่อนดีกว่า เบี้ย เบี้ยหากจะมองถึงตำแหน่งในกองทัพนั่นหมายถึง ทหารรบ ทหารราบแนวหน้า ที่จะคอยยืนเป็นกันชนสู้กับศัตรูก่อนในด่านแรก วิธีการเดินจะเดินไปข้างหน้าได้ครั้งละ 1 ช่อง แต่เวลากินฝ่ายตรงข้ามจะต้องกินได้แบบเฉียงขึ้นซ้ายหรือขวาก็ได้เพียง 1 ช่องเช่นกัน เบี้ยมีความพิเศษตรงที่หากเดินไปถึงแนวเบี้ยของฝ่ายตรงข้ามจะเปลี่ยนความสามารถเป็นเดินเฉียงกินเฉียง ม้า ม้าเป็นหมากตัวสำคัญในการเล่นหมากรุกได้เลย แต่ก็เป็นหมากเดินยากและทำความเข้าใจกันสักหน่อย ม้า ในหมากรุกไทยจะมีวิธีการเดินว่า เดินตรง 2 ช่อง แล้วหักเลี้ยว 1 ช่อง หรือจะเดินหักเลี้ยวก่อน 1 ช่อง แล้วเดินตรงอีก 2 ช่องก็ได้ ข้อดีของม้าคือสามารถเดินข้ามตัวหมากฝ่ายตรงข้ามได้ มีการเดินพลิกแพลงได้หลายแบบ ส่วนการกินจะกินได้ก็ต่อเมื่อหมากฝ่ายตรงข้ามอยู่ช่องสุดท้ายของการเดินเท่านั้น เรือ เรือ จัดว่าเป็นตัวหมากที่รวดเร็ว เดินไกล เหมาะสำหรับการทำลายฝ่ายตรงข้ามด้วยจังหวะไม่คาดคิด วิธีการเดินของเรือคือจะเดินเป็นแนวเส้นตรงไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งหรือแนวนอน แต่ไม่สามารถเดินข้ามตัวหมากได้ การกินจะสามารถกินตัวหมากใดก็ได้ในแนวการเดิน แต่จะกินได้ทีละตัวเท่านั้น โคน โคน หากจะนับเป็นตำแหน่งในกองทัพ นี่คือพวกเสนาธิการใกล้ตัวแม่ทัพใหญ่แล้ว โคนจะมีวิธีการเดินง่ายมาก โคนจะเดินได้ตาละ 1 […]